![]()
จุดประสงค์ของบทความ และภาพรวม
เนื่องจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเองได้มีโอกาสลงทุน,เทรด,เรียนรู้ในหลายๆตลาด รวมถึงได้มีการสอบถามแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆนักลงทุนหลายท่าน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีประสบการณ์,ระบบการลงทุน,วิธีการวิเคราะห์,สไตล์การลงทุนที่ต่างกันไป ซึ่งผมก็ได้เห็นถึงความเชื่อมโยงจึงได้ทำเป็นบทความนี้ครับ 🙂
1. เตรียมตัว เตรียมใจ
หากเราไม่อยากให้ชีวิตพบปัญหาเพิ่มโดยไม่จำเป็น ก่อนการลงทุน เราควรมีสติ เตรียมพร้อมต่อการสูญเสียไว้เสมอ , วางแผนสำรองไว้ว่า “ถ้าอะไรไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จะรับมืออย่างไร?” เพียงแค่คำถามนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณมีสติ และลดอคติในเรื่องการเข้าข้างตัวเองลงได้
2. อาจมีเรื่องสำคัญที่ตัวเรา “ยังไม่ได้รู้”
ถึงแม้เราจะรู้ข้อมูลว่าคนมีชื่อเสียง,โค้ช หรือผู้มีประสบการณ์ที่แนะนำเรา เขากำลังลงทุนอะไรอยู่ แต่ถ้าเราไม่ได้รู้ว่าเขาซื้อวันที่เท่าไร? เวลาไหน? และจะขายวันไหน? ที่ราคาเท่าไร? แปลว่าเราไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริงของเขา
ตัวอย่างเช่น
- นาย A ลงทุนในสินค้าชื่อ XYZ วันที่ 1 พ.ค. ณ เวลา 10:00 ได้ที่ราคา 5 บาท/หน่วย
- เวลาต่อมาอีก 2 ชั่วโมง ราคากลายเป็น 8 บาท/หน่วย
- แค่เพียงเวลาต่างกัน ต้นทุนก็ต่างกันแล้ว
3. ชีวิตแต่ละคน รับความเสี่ยงได้ต่างกัน
“ความเสี่ยง” สามารถเป็นได้ทั้งนามธรรมและรูปธรรม ตัวอย่างเช่น จำนวนเงิน 100,000 บาท บางคนอาจว่าเยอะ บางคนอาจว่าน้อย ขึ้นอยู่กับความคุ้นชิน,พฤติกรรม,บริบทชีวิต,ประสบการณ์ของแต่ละคน
- สำหรับนาย A เงินจำนวน 100,000 บาท คือ 100% คำนวณจากทรัพย์สินทั้งหมดที่มีในชีวิตของนาย A
- สำหรับนาย B เงินจำนวน 100,000 บาท คือ 0.01% คำนวณจากทรัพย์สินทั้งหมดที่มีในชีวิตของนาย B
- ความรู้สึกที่มีต่อเงิน 100,000 บาท ของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน (ทั้งที่จำนวนเงินในพอร์ตเท่ากัน)
ซึ่งการคำนวณจำนวนเงินเป็น % นี้ จะช่วยให้เรามองเห็นความเสี่ยงที่เป็นรูปธรรมได้ รวมถึงช่วยให้เราวางแผนการเงินทั้งหมดในชีวิตด้วยนั่นเองครับ
4. เรากำลังโลภ หรือกำลังกลัว อยู่รึเปล่า?
เราต้องพิจารณาข้อมูลตัวเองว่า สิ่งที่เราจะลงเงินไป ณ ตอนนี้
- เราทำอะไรอยู่?
- เราทำไปทำไม?
- เรามีข้อมูลอะไรรอบด้านพอหรือยัง?
- มีแผนหรือกลยุทธ์ที่พิสูจน์โดยสถิติต่างๆหรือยัง?
หากยังตอบคำถามเหล่านี้ไม่ได้ หรือมีข้อมูลไม่รอบด้านพอ ก็หมายความว่าคุณกำลังโดนอารมณ์โลภและกลัวครอบงำอยู่ และมีโอกาสที่จะขาดทุนเพิ่มขึ้น
5. Zero Sum Game คือสัจธรรมของทุนนิยม
Zero Sum Game คืออะไร?
ถ้าหากคุณผู้อ่านรู้จักกิจกรรม “เก้าอี้ดนตรี” แล้วเชื่อมโยงกับพฤติกรรมของมนุษย์ได้ มันคือการที่มนุษย์ต้องแข่งขัน,แย่งชิงเก้าอี้(ตำแหน่ง,อำนาจ,ทรัพยากร) หรือพยายามชนะเพื่อจะได้อยู่ในเกมต่อ
…และแน่นอนว่าเมื่อมีผู้ชนะ ก็ต้องมีคนที่ผู้แพ้หรือคนขาดทุน
สรุป… Zero Sum Game คือเรื่องปกติเมื่อต้องมีการแข่งขันแย่งชิงในตลาดทุน ทีนี้เมื่อเรารู้แล้วว่ามันคือการแย่งชิง ก็จะหล่อหลอมวิธีคิดให้เรามีการวางแผน และการเตรียมใจถ้าต้องขาดทุนได้
ข้อควรระวัง ตลาดการเทรด และการลงทุน ไม่ใช่ที่มาวัดดวง ไม่ใช่ที่มาแสวงบุญ ตลาดทุนไม่ใช่ที่พึ่งทางจิตใจและไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากไหนสามารถช่วยคุณได้
…สิ่งที่จะเป็นแกนหลักที่ช่วยคุณได้ มีเพียงระบบของคุณ หรือแผน-กลยุทธ์ที่คุณเลือกใช้เท่านั้นครับ 🙂
